ASN คาดกำไรสุทธิโตดีกว่าปีก่อน ตั้งเป้ารายได้โต 15% ตามเบี้ยรับรวมโตต่อเนื่อง

นายธวัชชัย ชีวานนท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเอสเอ็น โบรกเกอร์ (ASN) คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้น่าจะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไรเพียง 8.74 ล้านบาท หรือคาดว่ากำไรในปีนี้น่าจะฟื้นมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 59 ที่อยู่ที่ 27.84 ล้านบาท เนื่องจากไม่มีการยกเลิกสัญญากับพันธมิตรรายใดเหมือนที่เกิดขึ้นในปี 60 ที่มีการยกเลิกสัญญากับบริษัท กรุงไทยพาณิชย์ประกันภัย (KPI) ในการทำโครงการr ส่งผลให้ยอดเบี้ยประกันภัยรับลดลง อีกทั้งบริษัทจะบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายการขายให้ปรับตัวดีขึ้น หรือให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปีก่อน

ขณะที่ ตั้งเป้ารายได้ปี 61 จะเติบโต 15% จากปีก่อนอยู่ที่ 139.29 ล้านบาท หรือเติบโตมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปี 59 ที่มีรายได้อยู่ที่ 164.46 ล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตของเบี้ยรับรวมที่คาดน่าจะทำได้ไม่ต่ำกว่าปี 60 ที่อยู่ที่ 670 ล้านบาท จากภาพรวมอุตสาหกรรมประกันภัยในปีนี้มีการปรับตัวดีขึ้น เป็นไปตามเศรษฐกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ จะมีการเพิ่มจำนวนพนักงานขายประกันภัยรถยนต์ จากปัจุบันที่มีอยู่ 60 คนเป็น 100 คนภายในเดือน เม.ย.61 และการเพิ่มค่าเฉลี่ยต่อพนักงานขาย รวมถึงจะรักษาสัดส่วนรายได้จากการขายประกันชีวิตให้ไม่ต่ำกว่าปีก่อน เพื่อรักษาสัดส่วนการถดถอยของรายได้จากเบี้ยประกันชีวิตปีต่ออายุในอดีต และรักษาอัตราการต่ออายุประกันภัยรถยนต์ให้ไม่ต่ำกว่า 76% ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากประกันภัยรถยนต์ 79% และประกันชีวิต 21%

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการสร้างแบรนด์ OOHOO อย่างต่อเนื่องและการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพิ่มเติม ผ่านแพลตฟอร์ม OOHOO เช่น ประกันสุขภาพ และประกันอุบัติเหตุ เป็นต้น ประกอบกับการขยายตลาดผ่านเครือข่ายนายหน้าประกันวินาศภัยอิสระ ด้วยการเปิดให้บริการแพลตฟอร์มประกันภัยออนไลน์ สำหรับนายหน้าอิสระ www.asnprompt.com เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นายหน้าในการเปรียบเทียบ และสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัย

นายธวัชชัย กล่าวว่า ส่วนบริษัท ได้เงิน ดอทคอม จำกัด หรือธุรกิจการปล่อยสินเชื่อปีนี้คาดว่าจะให้บริการจับคู่สินเชื่อผ่านแพลตฟอร์ม"ได้เงิน"ในวงเงินกู้ 240 ล้านบาท ส่งผลให้มีสัญญาเงินกู้เพิ่มเป็น 1,290 สัญญา จากปีก่อนมีการจับคู่สินเชื่อจำนวน 65 ล้านบาท และมีสัญญาอยู่ที่ 340 สัญญา โดยจะขยายขอบเขตการให้บริการให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเริ่มจากหัวเมืองใหญ่ จากปัจจุบันที่มีการให้บริการไปแล้วราว 28 จังหวัด

“สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2561 16:17:01 น.”